ขนมไทยภาคใต้


        ชาวใต้มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทำบุญด้วยขนมที่มีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้เท่านั้น เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้าหรือขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำหรือเมซำ ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็นต้น
ตัวอย่างของขนมพื้นบ้านภาคใต้ได้แก่ 
·   ขนมหน้าไข่ ทำจากแป้งข้าวเจ้านวดกับน้ำตาล นำไปนึ่ง หน้าขนมทำด้วย กะทิผสมไข่ น้ำตาล เกลือ ตะไคร้และหัวหอม ราดบนตัวขนม แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง
·   ขนมฆีมันไม้ เป็นขนมของชาวไทยมุสลิม ทำจากมันสำปะหลังนำไปต้มให้สุก โรยด้วยแป้งข้าวหมาก เก็บไว้ 1 คืน 1 วันจึงนำมารับประทาน
·   ขนมจู้จุน ทำจากแป้งข้าวเจ้านวดกับน้ำเชื่อม แล้วเอาไปทอด มีลักษณะเหนียวและอมน้ำมัน
·   ขนมคอเป็ด ทำจากแป้งข้าเจ้าผสมกับแป้งข้าวเหนียว นวดรวมกับไข่ไก่ รีดเป็นแผ่น ตัดเป็นชิ้นๆ เอาไปทอด สุกแล้วเอาไปเคล้ากับน้ำตาลโตนดที่เคี่ยวจนเหนียวข้น
·   ขนมคนที ทำจากใบคนที ผสมกับแป้งและน้ำตาล นึ่งให้สุก คลุกกับมะพร้าวขูด จิ้มกับน้ำตาลทราย
·   ขนมกอแหละ ทำจากแป้งข้าวเจ้ากวนกับกะทิและเกลือ เทใส่ถาด โรยต้นหอม ตัดเป็นชิ้นๆ โรยหน้าด้วย มะพร้าวขูดคั่ว กุ้งแห้งป่น และน้ำตาลทราย
·   ขนมก้านบัว ทำจากข้าวเหนียวนึ่งสุก นำไปโขลกด้วยครกไม้จนเป็นแป้ง รีดให้แบน ตากแดดจนแห้ง ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดให้สุก ฉาบด้วยน้ำเชื่อม
·   ข้าวเหนียวเชงา เป็นข้าวเหนียวนึ่งสุก ตำผสมกับงาและน้ำตาลทราย
·   ข้าวเหนียวเสือเกลือก คล้ายข้าวโพดคลุกของภาคกลางแต่เปลี่ยนข้าวโพดเป็นข้าวเหนียวนึ่งสุกและใส่กะทิด้วย
·   ขี้หมาพองเช มีลักษณะเป็นก้อนๆ ทำจากข้าวเหนียวคั่วสุกจนเป็นสีน้ำตาล ตำให้ละเอียดเคล้ากับมะพร้าวขูด น้ำตาลโตนดที่เคี่ยวจนข้น เคล้ให้เข้ากันดี แล้วปั้นเป็นก้อน
·   ขนมดาดา เป็นขนมของชาวไทยมุสลิม ใช้ในโอกาสเดียวกับฆานม ประกอบด้วยข้าวเจ้า ข้าวเหนียวผสมน้ำบดให้ละเอียด นำไปละเลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ พับให้เป็นแผ่น กินกับน้ำตาลเหลว
·   ขนมกรุบ นิยมทำกันในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำอุ่น นำไปรีดให้แผ่บางบนใบตอง นำไปนึ่งแล้วตากแดดให้แห้ง แล้วทอดให้กรอบคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวเป็นยางมะตูม
·   ขนมก้องถึ่ง ทำจากถั่วลิสงคั่ว คลุกกับน้ำตาลร้อนๆ แล้วใช้ไม้ทุบให้ละเอียดจนเป็นแผ่น ตัดเป็นชิ้น

           ขนมหน้าไข่



วัตถุดิบ

แป้งเค้ก 90 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 3 ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
น้ำตาลทราย 100 กรัม
กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา (หรือครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา)

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง เตรียมไว้
2. ตีไข่ไก่ด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู
3. ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อเร็วสูงจนตั้งยอดอ่อน (เป็นรอยตะกร้อ) จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไปตีต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
4. ค่อย ๆ แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ลงไปคนตะล่อมเบา ๆ จนแป้งไม่เป็นเม็ด สุดท้ายเติมกลิ่นวานิลลาลงไปคนเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง ตักส่วนผสมใส่ลงพิมพ์ประมาณ 3/4 พิมพ์
5. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 15-20 นาทีจนขนมเป็นสีน้ำตาลและกรอบ นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนอุ่น นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ



                                        ขนมก้านบัว

วัตถุดิบ

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
ไข่แดง 1 ฟอง
กะทิ 5 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
แอมโมเนีย 1 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอด
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ผสมแป้งสาลี และแป้งข้าวเจ้า ร่อนรวมกัน จากนั้นนำแอมโมเนียผสมให้เข้ากัน
2. ผสมไข่แดง กะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน
3. นำส่วนผสมที่สอง เทใส่ผสมกับส่วนผสมที่หนึ่ง แล้วจึงนวดให้เข้ากัน 
    พักแป้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
4. นำแป้งไปคลึงให้เป็นแผ่นบาง ตัดเป็นชิ้นกว้างประมาณ 1/2 นิ้ว และยาวประมาณ 3 นิ้ว 
    ทำจนหมด
5. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง นำแป้งที่เตรียมไว้ลงไปทอด จนสุกเหลือง นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน และทิ้งไว้ให้เย็น
6. ผสมส่วนผสมสำหรับฉาบผิวเข้าด้วยกัน และนำไปตั้งบนไฟอ่อน จนน้ำตาลละลายดี เคี่ยวให้เหนียว จากนั้นจึงใส่แป้งที่ทอดไว้ (ในขั้นตอนที่ 5) คนให้น้ำตาลติดทั่วดี ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
7. นำขนมก้านบัวใส่จานเสริฟเป็นของว่าง หรือเก็บใส่ภาชนะมิดชิดไว้ทานภายหลังก็ดี        
    

                                                                                    


                                                                               
                         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โครงงานเรื่อง ขนมไทย

ผู้จัดทำ 1.นางสาวชนิจตา        จันทร์พิมาย        เลขที่ 1 2.นางสาวธัญชนก       ชูทุ่ง                  เลขที่ 3 3.นางสาวพรรณวษา    ...